วันเสาร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2555

ไดโนเสาร์...สัตว์โลกล้านปี

จากภาพยนต์เรื่อง จูราสสิค พาร์ค ของสตีเว่น สปิลเบิร์ก ที่นำเข้ามาฉายในประเทศไทย เมื่อกลางปีที่ผ่านมานี้ ทำให้คนไทยเกิดการคลั่งไคล้ไดโนเสาร์หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นยุคไดโนเสาร์ฟีเวอร์ เพราะนอกจากจะมีการกล่าวขานถึงทั้งในเด็กและผู้ใหญ่แล้ว ยังมีการสร้าง หุ่นจำลอง จัดนิทรรศการ พิพิธภัณฑ์ ตลอดจนภาพวาดและของเล่น ล้วนเกี่ยวข้องกับ ไดโนเสาร์แทบทั้งสิ้น ล่าสุดห้างเซ็นทรัล รามอินทราและสวนสยามยังคงจัดแสดงหุ่น ไดโนเสาร์ ให้ผู้ชมเข้าและศึกษาหาความรู้

บางท่านอาจจะสงสัยว่า ไดโนเสาร์ คืออะไร ในสมัยดึกดำบรรพ์มีจริงหรือไม่ สูญพันธุ์ ไปหมดแล้วจริงหรือ เราศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับไดโนเสาร์ได้อย่างไรและอีกหลากหลาย คำถามที่ต้องการค้นหาคำตอบ

คำว่าไดโนเสาร์ ถูกใช้ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2384 โดยนาย ริชาร์ด โอเวนนักกายวิภาค วิทยา ชาวอังกฤษ ตั้งขึ้นเพื่อใช้เรียกสัตว์ชนิดหนึ่งที่ขุดพบในรูปของซากดึกดำบรรพ์ เป็น โครงกระดูกขนาดใหญ่ โดยนายริชาร์ด ใช้คำว่า ไดโนเสาร์เพราะมาจากภาษาอังกฤษว่า dinosaurs เป็นคำผสมจากภาษากรีก ว่า deinos ซึ่งแปลว่า น่าเกลียดน่ากลัว กับคำว่า sauros แปลว่า กิ้งก่า ดังนั้น ไดโนเสาร์ จึงมีความหมายตามตัวอักษรว่า กิ้งก่าที่น่าเกลียด น่ากลัว ซึ่งอาจจะน่ากลัวในสายตาของนายริชาร์ด และอาจจะไม่น่ากลัวเลยในสายตาของนักวิทยาศาสตร์บางคน

ความรู้เกี่ยวกับไดโนเสาร์นั้น ส่วนใหญ่ได้มาจากซากดึกดำบรรพ์ที่เรียกตามศัพท์วิทยาศาสตร์ว่า ฟอสซิล ไม่ว่าจะเป็นฟอสซิลโครงกระดูก รอยเท้า เปลือกไข่ อุจจาระ ตลอดจนกลายสภาพเป็นหินแข็งอยู่ภายใต้ผิวโลก ครั้นเวลาผ่านไปเปลือกโลกมีการเคลื่อนตัว ซากฟอสซิลเหล่านี้จึงปรากฏบนพื้นผิวโลกให้เห็นตามที่ต่าง ๆ เป็นหลักฐานศึกษาการวิวัฒนาการของไดโนเสาร์ได้เป็นอย่างดี

ความจริงแล้วมนุษย์เคยค้นพบกระดูก และรอยเท้าไดโนเสาร์มาเป็นเวลานานแล้ว เพียง แต่ว่าผู้คนยุคต้น ๆ นั้น คิดว่าเป็นซากดึกดำบรรพ์ของกิ้งก่า มังกรหรือแม้กระทั่งนกกาเหว่า ยักษ์ จนกระทั่ง นายริชาร์ด ได้ให้ความเห็นว่า โครงกระดูกของสัตว์เหล่านั้น เป็นของสัตว์ กลุ่มหนึ่งที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงใกล้ชิดกับพวกกิ้งก่า

แต่ไม่จัดเป็นพวกกิ้งก่าซึ่งถ้าดูจากโครงสร้างของโครงกระดูกตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันพอจะแยกออกได้เป็น 7 ลักษณะ

นักโบราณคดีและนักชีววิทยา ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับไดโนเสาร์ไว้ว่า ถ้าแบ่งช่วงเวลาที่ไดโนเสาร์มีชีวิตอยู่ในโลก จะแบ่งออกได้เป็น 3 ช่วง คือ
1. ช่วงไตรแอสสิก (Triaassic) เป็นช่วงแรกของการเกิดไดโนเสาร์ คือ ประมาณ 250- 205 ล้านปีมาแล้ว ได้แก่ Herreraasaurus , Staurikosaurus , Coelophysis , plateosaurus , protoavis ฯลฯ                                                                                                                    
2. ช่วงจูราสสิก (Jurassic) เป็นช่วงที่ไดโนเสาร์มีชีวิตอยู่ประมาณ 205-135 ล้านปีมา แล้ว ในช่วงนี้มีไดโนเสาร์หลากหลายชนิด ทั้งมีเขาไม่มีเขา มีเกราะ ไม่มีเกราะ คอยาว คอสั้น ตลอดจนวิวัฒนาการไปเป็นสัตว์ปีก ได้แก่  Allosaurus , Anchisaurus , Dilophosaurus  , Ornitholestes  , Branchiosaurus  ,  Archaeopteryx , Stegosaurus ฯลฯ

อัลโลซอรัส (Allosaurus) ตัวนี้หน้าตาคล้าย ๆ กับ ทีเร็กซ์ เป็นไดโนเสาร์กินเนื้อขนาด ใหญ่ที่สุดมีขนาดยาวกว่า 33 ฟุต (10 เมตร) ขาหน้าเล็กสั้น หัวโต เขี้ยวใหญ่ได้ฉายาว่า จอมพราน ชอบล่าไดโนเสาร์อื่นเป็นอาหาร

อาร์คีออฟเทอริกซ์ เป็นบรรพบุรุษของนก จากหลักฐานพบว่า กระดูกและฟันของเจ้านก โบราณนี้คล้ายกับกระดูกและฟันของไดโนเสาร์มาก ต่างกันตรงที่มีปีกและขนแบบนกปก คลุมอยู่ทั่วตัว ชี้ให้เห็นว่ามันสามารถบินได้อย่างนก

3. ช่วงครีเตเชียส (Cretaceous)เป็นช่วงที่ไดโนเสาร์มีชีวิตอยู่ประมาณ 135-66 ล้านปีมาแล้วเป็นช่วงสุดท้ายของไดโนเสาร์ซึ่งจะมีวิวัฒนาการสูงสุดและสูญพันธุ์ไปในที่สุด ได้แก่  Protoceratops , Triceratops , Tyrannosaurus , Iguanodon, Acrocanthosaurus , Maiasaurus , Ornithominus  และ Oriraptor

ไทรเซอราทอปส์ (tricratops) มีฉายาว่า ยักษ์สามเขา ตัวไม่โตนัก ยาวประมาณ 20 ฟุต สูง 10 ฟุต มีขนาดใหญ่กว่าช้างเล็กน้อย ที่ต้นคอมีเกราะใหญ่แผ่คลุมคอและไหล่ ขากรรไกร โค้งเหมือนปากนกแก้ว มีลักษณะดูเหมือนดุร้ายแต่กิน พืชเป็นอาหาร เขาของมันมีไว้สู้ศัตรูเท่านั้น
ไทแรนโนซอรัส (Tyrannosaurus rex) หรือเรียกสั้น ๆ ว่าทีเร็กซ์ (Trex) แปลว่า กิ้งก่า ทรราชเป็นไดโนเสาร์ประเภทกินเนื้อเป็นอาหาร มีความยาวประมาณ 48 ฟุต สูงประมาณ 20 ฟุต ลักษณะเป็นแบบฉบับของไดโนเสาร์ หัวโต ตัวใหญ่ขาหน้าเล็กและสั้น มีกรงเล็บ แหลมคมยาวถึง 8 นิ้ว มีน้ำหนักถึง 7 ตันครึ่ง 
อิกัวโนดอน ฉายาว่า ผู้มีชื่อเสียงเลื่องระบือ ลักษณะคล้ายกิ้งก่ายักษ์กินพืชเป็นอาหาร ซึ่ง อิกัวโนดอน แปลว่า ฟันของอิกัวนา เพราะซากฟันที่ขุดพบคล้ายอิกัวนา ซึ่งเป็นกิ้งก่ายักษ์ แห่งเกาะกาลาปากอส 
แม้เวลาจะผ่านไปถึง 65 ล้านปี คำว่า ไดโนเสาร์ ก็ยังถูกกล่าวถึงเสมอ ถึงแม้ว่ามันจะ เป็นสัตว์ที่น่าเกลียดน่ากลัว แต่ก็ยังไม่ร้ายเท่ามนุษย์ที่คอย แต่คิดค้นและสร้างสมแต่สิ่งที่นำ ไปสู่การทำลายตัวเองอยู่ตลอดเวลา และเมื่อใดที่โลกเต็มไปด้วยมลพิษที่เกินกว่ามนุษย์จะ ทนได้ ก็อาจสูญพันธุ์ไปในที่สุด ดังเช่น...ไดโนเสาร์....สัตว์โลกล้านปี ที่ถูกบันทึกไว้ใน ความทรงจำของมนุษย์ตราบจนทุกวันนี้

6 ความคิดเห็น:

  1. น่าสนใจมาก ทำให้ทราบความเป็นมาของไดโนเสาร์
    ปล.ช่วยเพิ่มข้อมูลไดโนเสาร์ชนิดอื่นๆมาอีกนะครับ

    ตอบลบ
  2. น่าสนใจดีค่ะ อยากให้เพิ่มข้อมูลเยอะๆกว่านี้อีกค่ะ เป็นประโชน์มากๆค่ะ

    ตอบลบ
  3. เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์ในทางการศึกษา เนื่องจากมีน้อยคนนักที่จะศึกษา อยากให้นำข้อมูลมาเสนออีกค่ะ

    ตอบลบ
  4. น่าสนใจมาก เอาข้อมูลพร้อมรูปภาพ มาเพิ่มอีกนะค่ะ

    ตอบลบ
  5. พูดแล้วก้อยากเจอครับไดโนเสาร์ น่าสนใจมากเลยครับ

    ตอบลบ
  6. น่าสนใจดีค่ะ

    โบราณดี

    แต่ตัวหนังสือเล็กเกินไป

    พอดีสายตาสั้นค่ะ อิอิ

    ตอบลบ